วันอังคารที่ 28 เมษายน พ.ศ. 2558

เลี้ยงดู NC

เลี้ยงดู [markson]

คฤหาสน์ตระกูลต้วน

"คุณท่านคะ" เสียงสั่นๆของหญิงชราเอ่ยเรียกเจ้าของคฤหาสน์ที่ดูหนุ่มจนไม่น่าเชื่อก่อนที่
เจ้าของคฤหาสน์จะหันมาหาเจ้าของเสียง

"ว่าไงล่ะ แม่นมลี" เจ้าของคฤหาสน์อายุน้อยทักทายอย่างเป็นกันเองก่อนจะชำเลืองมองเด็กชาย
ตัวเล็กๆ ข้างกายแม่นมของตระกูลที่เธอจูบมาด้วย

"คือว่า ดิฉันอยากจะขอพึ่งใบบุญของท่านสักหน่อย..." เจ้าของคฤหาสน์เงียบพร้อมกับตั้งใจฟัง
แม่นมของตระกูล หญิงชราถอนหายใจเพียงเล็กน้อยก่อนจะว่าต่อ

"ดิฉัน ก็แก่มากแล้ว ไม่รู้ว่าจะตายเมื่อไหร่ ดิฉันอยากจะขอความเมตตาจากท่านสักหนึ่งอย่างจะ
ได้ไหมคะ"

"ทำอะไรล่ะแม่นม ผมให้ได้ทั้งนั้นล่ะ เพราะแม่นมก็เลี้ยงผมมาตั้งแต่เด็กๆ ผมพร้อมตอบแทน
พระคุณของแม่นมเสมอ" เจ้าของคฤหาสน์อายุน้อยว่าอย่างเมตตา

"หากดิฉันตาย ดิฉันขอฝากเด็กคนนี้ไว้กับคุณท่านได้มั้ยคะ 'คุณท่านมาร์ค' " เจ้าของคฤหาสน์
มองเด็กที่แม่นมว่าอีกครั้งอย่างตั้งใจก่อนจะเอ่ยปากรับคำขอนั้น

"ได้สิครับ"





หลังจากที่มาร์ครับปากกับแม่นมประจำตระกูลได้เพียงแค่สองสัน แม่นมก็สิ้นใจไปอย่างสงบ
มาร์คมางานสวดทุกวันจนกระทั่งวันเผา มาร์คไม่เห็นเด็กคนนั้นในงานเลย มาเห็นก็วันนี้ วันเผา
ของแม่นมลี เด็กคนนั้นไม่แม้แต่จะร้องไห้ ทำเพียงแค่ยืนนิ่งๆน้ำคลอเท่านั้น มาร์คเห็นดังนั้นจึง
เดินเข้าไปหาพลางย่อตัวลงคุยด้วยอย่างเป็นกันเอง

"ทำไมไม่ร้องไห้ล่ะ" มาร์คเอ่ยถาม เด็กน้อยหันมามองมาร์คก่อนจะเอ่ยตอบ

"คุณยาย..บอกว่าเป็นผู้ชายต้อง..ฮึก เข้มแข็ง" ว่าไปพลางกัดปากแน่นกลัเนน้ำตาเอาไว้ มาร์คเห็น
ดังนั้นจึงดึงเด็กน้อยเข้ามากอดปลอบประโลม มือหนาลูบหัวทุยๆของเด็กน้อยในอ้อมกอด

"อยากร้องก็ร้องมาเถอะ ร้องออกมา" สิ้นคำ มาร์คก็รู้สึกถึงความชื้นบนเสื้อสูทตัวเอง รู้สึกถึงแรง
กำเล็กๆตรงคอเสื้อ รู้สึกถึงความสั่นไหวของร่างในอ้อมกอด... เด็กคนนี้กำลังร้องไห้...ร้องไห้ไม่
มีเสียง..มันไม่ใช่นิสัยของเด็ก



ปลอบไปได้สักพักเด็กน้อยในอ้อมกอดก็หลับไป มาร์คสั่งคนขับรถให้ไปส่งตนและคนนี้ที่
คฤหาสน์ พร้อมกับให้ช่วยเหลือครอบครัวลีทุกอย่าง ร่วมถึงค่าใช้จ่ายในงานศพครั้งนี้...ไม่มีใคร
เห็นหน้าพ่อแม่ของเด็กคนนี้เพราะ...ทั้งคู่ได้เสียชีวิตจากอุบัติเหตุเมื่อหลายปีก่อน แม่นมเคยบอก
กับมาร์คไว้อย่างนั้น ที่มาในวันนี้ก็มีเพียงแค่ลูกหลานคนอื่นๆเท่านั้น






เมื่อรถประจำตำแหน่งเคลื่อนตัวเข้าจอดเทียบในคฤหาสน์มาร์คก็อุ้มเด็กในอ้อมกอดเข้า
คฤหาสน์ไป ตรงไปยังห้องนอนก่อนจะว่างร่างกลมๆลงบนเตียง
"อือ.." เสียงครางงัวเงียดังมาจากร่างที่มาร์คเพิ่งวางไปเมื่อสักครู่นี้ มาร์คนั่งมองตากลมๆที่กำลัง
ลืมตามองเพดานด้วยความสนใจ คำเดียวที่ผุดขึ้นมาตอนนี้คือ... 'น่ารัก'

"คุณ.." เด็กน้อยยันตัวลุกขึ้นนั่งมองมาร์คด้วยสีหน้าตื่นตกใจเล็กน้อย

"ฉันมาร์ค" มาร์คแนะนำตัวเองแล้วจ้องมองปฏิกิริยาของคนตรงหน้า

"....." ไม่มีเสียงตอบรับจากร่างตรงหน้ามีแต่เพียงแววตาที่ไม่ต่างจากเดิม มาร์คถอนหายใจก่อน
จะเอ่ยเสียงดังฟังชัด

"พ่อบุญธรรมของนาย" เท่านั้นล่ะ เรียกน้ำเสียงตื่นตกใจจากร่างตรงหน้าได้ทันที

"ห๊ะ!"

"อย่างที่ได้ยินนั่นล่ะ ฉันมาร์ค อายุยี่สิบปี ทำธุระกิจเกี่ยวกับอัญมณีและเครื่องประดับ และ
ตอนนี้นายต้องอยู่ภายใต้การเลี้ยงดูของฉัน" มาร์คร่ายยาว เด็กน้อยตรงหน้าทำแค่นั่งงงมองมาร์ค
ตาแป๋ว มาร์คถอนหายใจยาวก่อนจะนอนลงกับเตียงทันที

"เอาเป็นว่าตอนนี้ฉันเป็นพ่อนาย..."

"....."

"....."

"เป็นป๊าของแจ็คสันหรอ" เสียงเล็กๆถามขึ้นมาหลังจากที่เงียบไปพักใหญ่ มาร์คพยักหน้าให้
แทนคำตอบ

"ปะป๊าของแจ็คสันน" เด็กน้อยว่าก่อนจะก้มลงหอมแก้มพ่อบุญธรรมของตนทันที







และด้วยความเข้าใจแบบงงๆในครั้งนั้นทำให้มาร์คต้องเลี้ยงดูแจ็คสันมานานถึงสิบปี และไม่รู้
ไปดูกันยังไงจนกลายมาเป็น.....แบบนี้



"อ๊ะ!..อื้อ ป๊า.." เสียงครางแหบดังขึ้นใต้ร่างชายหนุ่มผู้ที่ถูกเรียกว่าป๊า คนถูกเรียกยกยิ้มที่มุมปาก
ก่อนจะก้มลงกดจูบลงบนริมฝีปากอิ่มของคนใต้ร่าง นิ้วที่สอดอยู่ทางช่องทางด้านหลังขยับเข้า
ออกช้าๆเรียกเสียงครางจากคนใต้ร่างได้เป็นอย่างดี

"ป๊ะ...ป๊า..เจ็บ" ร้องบอกพลางถดตัวหนีแต่ก็ถูกมือแกร่งยึดสะโพกไว้ซะก่อน

"อย่าเกร็งนะครับแจ็คสัน ป๊าจะทำเบาๆ" บอกกับคนใต้ร่างก่อนจะละเลงลิ้นเรียวลงบนตุ่มไตสี
สวยไปมาอย่างเพลิดเพลินราวกับได้ลิ้มรสของหวานชั้นยอด เสียงครางหวานดังขึ้นไม่ขาดนั่น
ทำให้ร่างกายของพ่อบุญธรรมในตอนนี้พร้อมที่จะปลดปล่อยตลอดเวลา

"มาร์ค! อื้อ มาร์ค.. แจ็คสันไม่ไหวแล้ว..เข้ามานะ..อื๊อ" ร้องบอกไม่พอยังขมิบช่องทางตอดรัด
นิ้วเรียวของมาร์คอย่างเชิญชวน มาร์คดัดฟันถอนนิ้วออกก่อนจะส่งแท่งเนื้ออุ่นร้อนของตัวเอง
เข้าไป

"อะ..อ๊าาาา!!" แจ็คสันกรีดร้องเสียงดังก่อนจะผวาตัวขึ้นมากอดคอมาร์คเอาไว้ ฟันขบเข้าหากัน
แน่นกลั้นความเจ็บปวดเอาไว้ มาร์คค่อยๆขยับตัวช้าๆ ก่อนแปรเปลี่ยนเป็นเร็วและแรงจึ้นตาม
แรงอารมณ์ แต็สันทีาเจ็บตอนนี้เริ่มรู้สึกอย่างอื่นเข้ามาแทน เสียงเรื้อกระทบกันดังลั่นไปทั่วห้อง
สี่เหลี่ยม ดังมากจนน่าอายหากมีคนอื่นอยู่ในห้องด้วยคงต้องเอาปี๊บคลุมหัวแน่ๆ

"อ๊ะ อ๊า..อ๊า" เสียงครางหวานน่าฟังทำให้มาร์คส่งตัวตนเข้าไปลึกขึ้นอีก กระแทกเน้นย้ำตรงจุดที่
เรียกเสียงครางจากอีกคน

"อื๊ออ อื้ออ" กัดริมฝีปากตัวเองแน่นกลั้นเสียงครางที่ดังเกินไป มาร์คมองภาพนั้นยิ้มๆ ก่อนจะ
แกล้งส่งแรงกระแทกเข้าไปแรงๆ

"อ๊ะ! มาร์ค!" ว่าอีกคนเสียงดุก่อนจะตีไหล่ไปแรงๆ

เมื่อบทรักเร่าร้อนดำเนินมาใกล้จะถตอนจบมาร์คก็เร่งจังหวะขึ้นจนคนใต้ร่างไหวโอนไปตาม
แรงของมาร์ค

"อ๊ะ อื้อๆๆ..อ๊ะ" ครางไม่เป็นภาษาก่อนตะกระตุกเกร็งปล่อยน้ำสีขาวขุ่นมาเลอะหน้าท้องของอีก
คนและตนเอง

"อืมม.." มาร์คกระแทกกระทั้นเข้าไปแรงๆอีกสองสามครั้งก่อนจะปลดปล่อยน้ำรักสีขาวขุ่นเข้า
ไปในตัวของแจ็คสัน แจ็คสันที่รับรู้ถึงของเหลวอุ่นๆที่เข้ามาก็หน้าแดงยกมือขึ้นปิดหน้า

"อื้อ ไม่เอาแล้วป๊า เหนื่อย" ร้องบอกพ่อคนหื่นของตนก่อนจะดันให้อีกคนถอนร่างออกไป

"ป๊ายังไม่เหนื่อยเลย" เสียงทุ้มเอ่ยหยอกล้อลูกของตน

"พอแล้วป๊า! อดยากมาจากไหน"

"ก็อดมาสิบปีอ่ะครับ คิดดู ป๊าต้องอดทนแค่ไหนที่จะไม่จับแจ็คสันกินตั้งแต่ยังเด็ก" มาร์คว่า ใช่
เขาเลี้ยงเด็กน้อยคนนี้มาสิบปี เลั้ยงตั้งแต่แจ็คสันอายุเจ็ดจวบจนตอนนี้สิบเจ็ดแล้ว เขาสมควร
ได้รับรางวัลชีวิต(?)

"งื้อออ ไอ้บ้า"

"มาร์ครักแจ็คสันนะครับ"

"อื้อ..แจ็คสันก็รักมาร์คนะ"

สิ้นคำบอกรักของทั้งคู่ จุมพิตแสนหวานก็เริ่มขึ้น มาร์คลูบไล้เรือนร่างเนียนของลูกบุญธรรม
อย่างนึกรักใคร่ ใครจะไปรู้ล่ะว่า ยิ่งโตลูกบุญธรรมของเขาจะยิ่งน่ารักขนาดนี้ รู้งี้...เขาจับกิน
ตั้งแต่อายุสิบสองแล้ว.......



และแน่นอน..ไม่มีใครในคฤหาสน์ที่ไม่รู้ถึงความสัมพันธ์นี้ เพราะบางคืนนี่แทบต้องหาอะไรมาอุดหู กันเสียงครางหวานที่จะดังขึ้นมาไม่รู้เมื่อไหร่ตลอดเวลา..


มาร์คต้วนคนขี้หวง NC

[มาร์คต้วนคนขี้หวง MarkSon]




ผมรู้..ว่าแจ็คสันเป็นเด็กอัธยาศัยดีแถมยังขี้อ้อน


ผมรู้..ว่าแจ็คสันเข้ากับคนอื่นได้ง่าย


ผมรู้..ว่าแจ็คสันทุ่มเทเพื่อให้วงของเราเป็นที่รู้จัก


และผมรู้.....ว่าผมไม่ควรไปหวงน้องต่อหน้าคนอื่นขนาดนั้น.....


                                      ก็รู้แต่มันทำไม่ได้อ่ะเห้ย!


            ให้ผมยืนมองแฟนตัวเองไปหาคนนู้นทีคนนี้ที ถ่ายรูปกับคนนู้นทีคนนี้เนี่ยนะ สนุกจัง
เลยครับแหม่  อย่าคิดว่าผมไม่รู้ว่าไอดอลชายบางคนที่รู้จักกับแจ็คสันคิดอะไรกับแจ็คสัน 
 เสือด้วยกันเขาดูออก! แล้วอีกอย่างเด็กนั่นก็น่ารักซะขนาดนี้ เป็นใครก็ต้องหวั่นไหวบ้างล่ะ 
 ขนาดที่ผมว่าผมไม่มีทางชอบแจ็คสันแน่ๆ เพราะผมชอบคนตัวบางๆ หน้าตาน่ารักน่าฟัด
มากกว่า แต่สุดท้าย...ผมดันไปตกหลุมรักแจ็คสันจนได้ เรียกได้ว่ารักจนหลงเลยล่ะ... พอๆ
กลับมาตอนนี้ดีกว่า 



            ผมยืนมองแจ็คสันที่ต้องวิ่งไปทักคนนั้นคนนี้อย่างนึกเป็นห่วงและหวงในเวลา
เดียวกัน


"แจ็คสันมานี่หน่อย ขอตัวแจ็คสันหน่อยนะครับ" ในที่สุดผมก็ทนไม่ไหวเดินไปลากแจ็คสัน
ออกมาโดยไม่ลืมหันไปกล่าวขอโทษที่ผมเสียมารยาท 




            ผมลากแจ็คสันออกมาจากงานประกาศรางวัลที่แสนจะยิ่งใหญ่นั่น ซึ่งตลอดทางที่ผมลากแจ็คสัน
ออกมาแจ็คสันก็บ่นงุ้งงิ้งตลอดทาง


"พี่ลากผมออกมาทำไมเนี่ย" แจ็คสันบ่นพลางมองหน้าผมอย่างหงุดหงิดที่ผมไปลากเจ้าตัว
ออกมาจากบรรดาคนรู้จักและไม่รู้จัก


"เดี๋ยวนี้หัดหงุดหงิดใส่พี่หรอ" ผมมองตอบกลับไปก่อนจะดึงตัวอีกคนให้เข้ามาใกล้ผมก่อน
จะออกแรงบีบข้อมืออีกคน


"พี่มาร์คผมเจ็บ" แจ็คสันร้องบอกก่อนจะพยายามแกะมือผมออกพลางส่งสายตาดุๆมาให้ 
ผมถอนหายใจเล็กน้อยก่อนจะปล่อยมือออกจากเจ้าตัว


"ทำไมต้องไปสนิทคนเยอะขนาดนั้นด้วย" ผมถามพลางนั่งเก้าอี้แถวๆนั้น 


"มันเป็นมิตรภาพระหว่างการทำงานนี่" แจ็คสันตอบผมโดยที่มือก็ยุ่งกับการจัดแจงของบน
หัว 


"ไม่รู้สึกรึไง ว่าคนอื่นเขาคิดกับนายยังไง"


"เขาก็เห็นผมเป็นเพื่อนร่วมงานหมดแหละน่า พี่อ่ะคิดมาก" 


"เพื่อนรวมงานนี่มีหอมแก้มกันด้วยหรอ"


"พี่เห็น.." แจ็คสันหน้าซีดลงทันทีมือไม้สั่นเหงื่อบนหน้าผากผุดออกมา

“......”


"แค่เพื่อนกันน่ะพี่ จริงๆนะ" แจ็คสันบอกก่อนจะก้าวเท้าเข้ามาหาผมพลางนั่งคร่อมลงบน
ตักผมมือบางยกขึ้นโอบรอบคอผมไว้


"ทำอะไรนึกถึงใจพี่บ้าง" ผมบอกไปพลางส่งสายตานิ่งๆไปให้แต่ก็แฝงความเจ็บปวดไว้อยู่


"ผมรักพี่คนเดียวนะ"


"....."


"จริงๆนะ...พี่มาร์ค" แจ็คสันบอกก่อนจะทำสิ่งที่ทำให้ผมต้องชะงักในทันที





"จริงๆนะ...พี่มาร์ค" แจ็คสันที่นั่งคร่อมตักมาร์คอยู่โน้มตัวลงไปกดจูบบนริมฝีปากหนาของ
มาร์คอย่างอ่อนหวานพลางขย่มหน้าตักอีกคนเบาๆหวังแกล้งอีกคน


"...อืม.." มาร์คจูบตอบอย่างดูดดื่ม ลิ้นร้อนกวาดไปทั่วโพรงปากของแจ็คสัน ก่อนจะเกี่ยวกระหวัดกับลิ้นเล็กของอีกฝ่ายและกลายเป็นว่ามาร์คกลายเป็นคนควบคุมจูบอันร้อนแรงในครั้งนี้เสียเอง มือหนาของมาร์คยกขึ้นโอบรอบเอวของแจ็คสันเอาไว้หลวมๆ มืออีกข้างก็เลิกเสื้อของแจ็คสันขึ้นจนเห็นถึงหน้าอก บางทีมาร์คก็นึกขอบใจชุดที่สไตล์ลิสต์จัดให้ในวันนี้สะดวกแก่การถอดดี(?) 

"อื้อ..พี่มาร์ค..ไม่เอา เดี๋ยวคนมะ..อ๊ะ" ยังไม่ทันได้พูดจบแจ็คสันก็ต้องครางเสียวทันทีเมื่อ
มาร์คก้มหน้าลงเล่นกับยอดอกของตน ลิ้นร้นของมาร์คลากผ่านตุ่มไตสีสวยไปมา ทำเอา
แจ็คสันบิดร่างกายเร้าด้วยความเสียว แต่ก็ไม่วายระแวงว่าจะมีคนมาเห็น


"..อ๊า..พี่มาร์คอย่า.." แจ็คสันร้องห้ามแต่ทว่ากลับแอ่นหน้าอกเข้าหาปากอีกคน


"ปากไม่ตรงกับใจเลยนะเรา" มาร์คเอ่ยแซวก่อนจะก้มหน้าลงไปดูดดุนยอดอกแจ็คสันอีก
ครั้ง


"..อื๊อออ" แจ็คสันเลื่อนมือมาจิกไหล่มาร์คเผื่อระบายความเสียวที่ตนได้รับ 


"ขย่มแบบนี้กะแกล้งพี่หรอ" มาร์คบอกพลางเลื่อนหน้าขึ้นสูดดมความหอมจากซอกคอของ
คนตรงหน้ามือยกขึ้นสะกิดยอดอกอีกคนเบา


"ปะ..เปล่า..อ๊ะ" แจ็คสันเริ่มพูดไม่เป็นภาษาเชิดหน้าขึ้นกัดปากเมื่อเริ่มรู้สึกว่าเสียงครางของ
ตนจะดังเกินไปแล้ว


"แจ็คสัน...พี่รักนายนะ หวงมากด้วย" มาร์คบอกทั้งที่หน้ายังคงซุกอยู่ที่ซอกคอของแจ็คสัน


"ผม..อือ..ก็รักพี่นะพี่มาร์ค" สิ้นคำบอกรักของแจ็คสันบทรักอันร้อนแรงก็เริ่มขึ้นมาในตอน
นั้นเอง








ภายในงาน




"มีใครเห็นแจ็คสันกับมาร์คบ้าง" ลีดเดอร์ของวงก็อตเซเว่นอย่างอิมแจบอมหรือที่เรียกกันว่า
เจบี ถามหาอินเตอร์ไลน์สองคนที่หายไปเพราะจะต้องกลับโรงแรมที่พักกันแล้ว


"ผมว่าไม่ต้องรอหรอก" ยูคยอมมักเน่ของวงเอ่ยขึ้นก่อนจะทำหน้าเหมือนรู้อะไรบ้างอย่าง
นั่นทำให้ทุกคนในวงร้องอ๋อทันที


"งั้นก็กลับกันเลยแล้วกัน สองคนนั้นคงกลับกันเองได้" 


และในระหว่างที่กำลังจะกลับโรวแรมกันนั้นร่างของมาร์คและแจ็คสันก็ปรากฏขึ้น แต็คสัน
เข้ามาในสภาพที่เดินดูไม่ปกติเท่าไหร่ ส่วนมาร์คนั้นเดินเข้ามาด้วยหน้านิ่งๆแต่ท่าทางดูมี
ความสุข


"ย๊าาา อะไรกันจะกลับโดยไม่รอฉันงั้นหรออ"แจ็คสันโวยวายพลางตรงเข้าไปในวงสนทนา
อย่างหาเรื่องแต่ก็ต้องนิ่วหน้าทันทีเมื่อรู้สึกเจ็บช่วงล่าง มาร์คเห็นอย่างนั้นก็เดินเข้ามาประ
คองแจ็คสันเอาไว้


"มากันก็ดี... จะกลับโรงแรมแล้ว" แจบอมบอกก่อนจะเดินนำหน้าออกไป


"พี่มาร์คดูพี่แจ็คสันดีๆนะครับ เดี๋ยวจะหมดแรงล้มพับไปซะก่อน"แบมแบมเด็กกวน
ประสาทของวงบอกก่อนจะวิ่งร่าตามแจบอมออกไป


"หื่นจริงๆ"จินยองออมม่าของวงบ่นพลางส่งสายตาอาฆาตมาให้


"ออกไปเร็วๆเถอะน่า" มาร์คบอกพลางโบกมือไล่


"โรคจิต"


"ไอ้ยูคยอม!" มาร์คตะคอกเสียงดังก่นจะใส่เตะเจ้ามักเน่ตัวดีโดยลืมไปว่าประคองแจ็คสันอยู่


"อะ..ไอ้พี่มาร์คคค ทำไมปล่อยกันอย่างนี้เล่า" แจ็คสันล้มพับลงทันทีที่มาร์คปล่อยตัวเองไป


"เห้ยย แจ็คสันพี่ขอโทษษษ" มาร์คร้องเสียงหลงก่อนจะวิ่งเข้ามาประคองแจ็คสันให้ลุกขึ้น


"เจ็บ.." 


"เดี๋ยวไปดูแลให้ที่โรงแรมนะ..."


"....."


"ดูแลทั้งคืนเลย" 


"คนบ้า" แจ็คสันทุบไหล่มาร์คไปหนึ่งทีก่อนจะโดนมาร์คอุ้มด้วยท่าเจ้าสาวออกจากงานไป
โดยไม่สนสายตาของคนในงาน


'อายก็อาย เขินก็เขิน มาร์คต้วนคนบ้า!' แจ็คสันได้แต่บ่นอุบในใจ









ห้องหนึ่งในโรงแรม


"พี่มาร์ค ไม่เอาแล้วว" แจ็คสันร้องปรามทันทีเมื่อมือซุกซนของมาร์คได้ถอดเสื้อที่ตนเพิ่งจะ
ใส่หลังจากอาบน้ำเสร็จออก


"ทำไมล่ะ...พี่อยากต่อจากที่ค้างไว้จะแย่.." มาร์คกระซิบเสียงกระเส่าข้างๆหูของแจ็คสัน


"ค้างบ้าค้างบออะไร! พี่น่ะเสร็จไปรอบนึงแล้วนะ..." แจ็คสันตะโกนท้วงแต่ก็ต้องเงียบลง
เมื่อเห็นสายตาของมาร์คที่มองมาเหมือนจะอ้อนวอน


"พี่นี่มันหื่นจริงๆเลย" แจ็คสันบ่นแต่ก็ยอมยันกายลุกขึ้นมาถอดเสื้อให้อีกคน มาร์คยกยิ้ม
พอใจก่อนจะก้มลงขบเม้มซอกคอขาวของคนใต้ร่าง


"อืมม..." แจ็คสันเอียงหน้าเล็กน้อยเพื่อให้มาร์คได้ขบเม้มซอกคอของตนอย่างถนัด


"หอม..."มาร์คว่าพลางสูดดมความหอมหวานจากลำคอระหง


"อะ..อื้อ.."แจ็คสันหายใจติดขัดเมื่อสัมผัสได้ถึงลมหายใจอุ่นของมาร์คที่ลำคอ


มาร์คผละออกไปถอดกางเกงนอนของแจ็คสันออกพร้อมกับชั้นในสีดำเผยให้เห็นแกนกาย
ของแจ็คสันที่กำลังตื่นตัวเพราะแรงอารมณ์ 


"อย่ามอง..ผมอาย.."แจ็คสันว่าพลางพยายามที่จะหุบขาเข้าหากันแต่ก็ถูกมือหนาของมาร์ค
จับเอาไว้ก่อนจะจับให้อ้าออกกว้างอีก


"โรคจิตชะมัดเลย" แจ็คสันบ่นมาร์คแต่มาร์คหาได้สนใจไม่ ซ้ำยังก้มหน้าลงเล่นกับแกนกาย
สวยตรงหน้าจนเจ้าของแกนกายต้องเผลอครางเสียงหลง


"ฮึ..อ๊าาาา.." มาร์คหยอกล้อกับแกนกายสวยไปมาจนลิ้นร้อนของมาร์คไล่เลียจากบนลงล่าง 
ล่างขึ้นบนอยู่อย่างนั้น ทำเอาแจ็คสันเผลอจิกผ้าปูที่นอนด้วยความเสียว


"พี่มาร์ค..ไม่ไหวแล้ว เข้ามาในตัวผม..ที.. อึก..อ่า" แจ็คสันร้องขอนั่นทำให้มาร์คเงยหน้าขึ้น
มายกยิ้มอีกครั้ง


"เด็กลามก" มาร์คว่าก่อนจะปลดกางเกงยีนส์ที่ตนใส่ออก แน่นอนมาร์คยังไม่ได้อาบน้ำ 
เพราะรู้ว่าอาบยังไงก็คงเปื้อนอยู่ดี...


"อ๊า!!..เจ็บ..พี่มาร์ค เจ็บ..!" แจ็คสันกรีดร้องเสียงหลงเมื่อแกนกายขนาดใหญ่ของมาร์คถูกส่ง
เข้ามาในตัวแต่มันก็เพียงแค่ส่วนหัว..ยังเข้าไปไปถึงครึ่งด้วยซ้ำ


"แจ็คสัน..อึก..ทนหน่อยนะ.." มาร์คกัดปากแน่นเมื่อสัมผัสได้ถึงความคับแน่นของร่างตรง
หน้า


"อะ..อื้อ" แจ็คสันตอบรับเสียงแผ่ว....


'ทั้งๆที่ก็ทำมาก่อนหน้านี้แท้ๆ ทำไมยังเจ็บอีกเนี่ย' แจ็คสันบ่นกับตัวเองในใจพลางมองหน้า
ของคนที่อยู่เหนือร่างเขาในตอนนี้ ใบหน้าของมาร์คมีเหงื่อผุดขึ้นเต็มใบหน้า บ่งบอกว่า
มาร์คอดทนแค่ไหนที่พยายามที่จะไม่ส่งตัวเองเข้ามาจนสุด 


"พี่มาร์ค..เข้ามาเลย.." 


"อึก!"


"อ๊าา!!" สิ้นคำของแจ็คสันแกนกายใหญ่ก็ถูกส่งเข้ามาทีเดียวจนมิด


"พี่ขอโทษ..พี่ขอโทษ" มาร์คเอ่ยขอโทษก่อนจะก้มหน้าลงจูบซับหน้าผากคนใต้ร่าง ช่วงล่าง
ก็ขยับเข้าออกเป็นจังหวะช้าๆเนิบนาบก่อนจะแปรเปลี่ยนเป็นกระแทกรุนแรงตามแรง
อารมณ์ มาร์คจับแจ็คสันให้นอนก้มหน้าก่อนจะยกสะโพกมนให้ยกขึ้นมือหนาส่งไปบีบเค้น
สะโพกมนของแจ็คสันอย่างมันส์มือพลางกระแทกแกนกายเข้าออกอย่างแรง 


"อ๊ะๆๆ..อ๊า!..แรงอีก พี่มาร์ค อื๊ออ"


"อ่าส์..หวังกาอี..พี่ไม่ไหวแล้ว" มาร์คครางเสียงต่ำก่อนจะส่งแรงกระแทกสุดท้ายเข้าไปอย่าง
หนักหน่วงและเน้นเข้าตรงจุดกระสันของแจ็คสัน ปากหนาก้มลงจูบซับแผ่นหลังของร่างบาง(?) ขบเม้มไปมา ทำร่องรอยรักไว้ทั่วแผ่นหลังของแจ็คสัน



“อื้อออ....อ๊าส์..”


"อ๊าาาา/อ่าห์" เสียงครางของทั้งคู่ดังขึ้นพร้อมกันและพร้อมกับน้ำรักสีขาวขุ่นที่ถูกปลด
ปล่อยออกมา น้ำสีขาวขุ่นของมาร์คถูกส่งเข้าไปในตัวของแจ็คสัน แจ็คสันนอนก้มหน้าฟุบ
กับหมอนอย่างเหนื่อยอ่อน แต่ก็ต้องสะดุ้งขึ้นมาอีกครั้งเมื่อรู้สึกได้ว่ามีบางอย่างกำลังขยาย
ตัวคับแน่นอยู่ที่ช่องทางของตน 


"อีกแล้วหรอ..." 


"ความหวงของพี่มันร้อนแรงเหมือนความรักของพี่เลย...ว่ามั้ย หวังกาอี" สิ้นคำพูดของมาร์ค
บทเพลงรักอันร้อนแรงก็เริ่มต้นขึ้นอีกครั้ง....อีกครั้ง...และอีกครั้ง...


.


.


.


.


.





.


.


.


และคืนนั้นเองสมาชิกก็อตเซเว่นทุกคนต้องมานั่งหน้าตายอยู่ที่สนามหญ้าหลังโรงแรม
เหนื่อยก็เหนื่อยอยากนอนก็อยากนอน แต่นอนไม่ได้เพราะไอ้กิจกรรมเข้าจังหวะของพี่ใหญ่
แห่งวงอย่างมาร์คต้วนกับแจ็คสันหวังที่เล่นทำกันตั้งแต่กลับจากงานตอนสี่ทุ่ม จนป่านนี้ปา
ไปตีสี่แล้วยังไม่หยุด


"ให้ตายเถอะ พรุ่งนี้ฉันจะแซวให้อายเลย ฮึ่มม" ยูคยอมมักเน่ของวงบ่น








กลับไปเม้นกันหน่อยเนอะ.....
ปล.แก้ไอ้ข้างหลังที่เป็นสีขาวๆยังไงอ่า T^T

http://writer.dek-d.com/thotsakan-98/writer/view.php?id=1299082